ดีไซน์ร้านตัดผมสไตล์เรา By…มานา

ในช่วงเวลาที่เหล่าช่างผม ช่างเสริมสวย อยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เราต่างส่งกำลังใจดีๆ จากใจสู่ใจถึงกันเสมอ ช่วงเวลานี้ แม้ร้านถูกปิดตัวลง เรามาพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โอกาสดีๆ ที่จะมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร้านของเราให้พร้อมในการเปิดต้อนรับลูกค้า ในวันที่โควิดจากเราไปอย่างสงบกันเลยดีกว่านะ !

1.สไตล์เรียบหรูดูดี

            สไตล์แรกเหมาะสำหรับร้านที่ชื่นชอบร้านแนวสะอาด เรียบหรู ใช้โทนสีขาวในการตกแต่งร้าน ทั้งผนังและฝ้าเพดาน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในภายในร้าน เน้นโทนสีอ่อน ดูสุภาพ อาจเป็นโทนสีน้ำตาลดังภาพ หรือเป็นสีเขียว สีฟ้า ตามใจชอบก็ได้เช่นเดียวกัน

2.สไตล์ My Home

            แน่นอนว่าหากเราอยู่บ้านเรารู้สึกอบอุ่นเช่นไร การตกแต่งร้านให้อบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้านก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเจ้าของกิจการที่อยากตกแต่งร้านแต่งผมของเราให้ออกมาดูเรียบง่าย อบอุ่นประหนึ่งเข้าไปตัดผมภายในบ้านของเราเอง อาจเน้นผนังลวดลายอิฐ หรือวอลเปเปอร์เรียบๆ เฟอร์นิเจอร์เครื่องไม้ ก็จะทำให้ดูเป็นบรรยากาศบ้านเราได้สบายๆ เลยล่ะ

3.สไตล์แบล็ค & ไวท์

            สำหรับช่างผม ที่มีความชื่นชอบสีขาวและสีดำ โทนสีนี้จะตกแต่งได้ไม่ยาก เลือกสไตล์การตกแต่งทั้งเคาน์เตอร์ โคมไฟ โทนสีทุกอย่างเน้นไปที่สีขาวและสีดำ หรืออาจจะเป็นสีขาวดำตัดกันดังในภาพก็ได้เช่นเดียวกัน ทุกอย่างอยู่ที่ความชื่นชอบของเราเองเลยนะ

4.สไตล์เฮฟวี่

            สไตล์นี้ อาจเหมาะสำหรับร้านตัดผมที่เจ้าของออกแนววัยรุ่นสักหน่อย ชื่นชอบสไตล์เฮฟวี่เป็นหลัก การตกแต่งจะเน้นไปที่ภาพวาดแนวเฮฟวี่ ฮาร์ดคอร์สักหน่อย อาจประดับตกแต่งด้วยขวดเหล้าขวดไวน์ตามใจชอบ ส่วนที่นั่งสำหรับตัดผม ก็จัดแบบเอาใจสายดาร์คกันเลย ด้วยมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์  ก็จะดูเท่ๆ ไปอีกแบบ และเป็นแนวทางการตลาดที่น่าสนใจไม่เบาอีกด้วย

5.สไตล์วินเทจ

          สไตล์วินเทจ เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ช่างผมใฝ่ฝัน แนวคิดสไตล์วินเทจ อาจไม่ต้องดูวุ่นวายมานัก เพียงห้องโปร่งๆ โล่งๆ มีสีสันเรียบๆ พื้นกระเบื้องดูสะอาดตา เข้ากับกระจกบานใหญ่ กรอบดำ รวมถึงห้องลักษณะปูนเปลือย ไฟตกแต่งแบบง่ายๆ ก็จะออกมาดูดี และน่าเข้าไปใช้บริการแล้วล่ะ ว่างๆ ลองมาปรับเปลี่ยนมุมมองกันนะ

7. สไตล์ย้อนยุค

            แนวย้อนยุค เป็นแนวเรียบง่าย จัดและตกแต่งได้ไม่ยาก เคาน์เตอร์บาร์และกระจกเน้นไปที่เครื่องไม้ อาจจะดูอาร์ตๆ สักหน่อย ส่วนเก้าอี้ตัดผม เว้นตัวใหญ่ๆ มีที่วางแขนแบบสะดวกสบาย เหมือนสมัยเรายังเด็ก รุ่นพ่อแม่เราพาเข้าร้านตัดผมประมาณนั้น

8. สไตล์เบสิค

            สไตล์เบสิค เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่จัดและตกแต่งได้ง่าย ด้วยชื่อสไตล์ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าจัดไปตามแนวทางตกแต่งง่ายๆ เหมาะสำหรับร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่โตมากนัก อาจมีเพียงสองหรือสามโต๊ะ ทีมช่างไม่มาก กระจากบานใหญ่ดูชัดเจน เคาน์เตอร์ง่ายๆ รับกับโคมไฟฝัง ก็จะดูไม่เกะกะ ส่วนพื้นเน้นที่พื้นไม้ หรือปาร์เก้ ก็จะดูมีความเบสิค เรียบๆ และสะอาดตาด้วยนะ

9. สไตล์ธรรมชาติ

            สำหรับเจ้าของกิจการที่มีความชื่นชอบธรรมชาติ ต้นไม้ ใบหญ้า การตกแต่งร้านสไตล์นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณเลย ด้วยมุมมองร้านที่ดูสะอาดตา เพิ่มโอโซน อากาศดีๆ ด้วยการนำต้นไม้เล็กๆ มาประดับประดา พื้นห้องควรเป็นไม้เงาแบบเรียบง่าย ส่วนฝ้าเพดานให้เน้นที่สีขาวสะอาด รับกับอากาศบริสุทธิ์ภายในร้านของเรานั่นเอง

10. สไตล์อาร์ติส

            มาปิดท้ายกันที่สไตล์อาร์ติสกันหน่อย สไตล์นี้เหมาะกับสำหรับเจ้าของกิจการที่ชื่นชอบภาพวาด สไตล์อาร์ตๆ จึงเหมาะกับคุณ อาจมีการตกแต่งด้วยการหาไอเดียเก้าอี้ที่นั่งรอ หรือเก้าอี้ที่ตัดผมเองแบบสั่งทำพิเศษ ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ภาพวาดจะเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบรรยากาศของร้าน อาจจ้างอาร์ติสมาวาดลวดลาย หรือจะใช้เป็นวอลเปเปอร์อาร์ตๆ หน่อยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

            ท้ายสุดนี้ เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน ในวันว่างๆ ลองคิดหาไอเดียตกแต่งร้านให้บรรเจิดตามสไตล์ที่เราชื่นชอบกันเลยดีกว่าเนอะ ไหนๆ เราก็ต่างถูกกักตัวอยู่บ้าน อยู่ร้านกันแล้ว เรียกว่าสไตล์ใครสไตล์มันส์กันเลยจ้า