The Shadow of The Evening Sun

จากเด็กหนุ่มที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ในการทำสีผมมาตั้งแต่วัยรุ่น และแนวคิดของเขาก็ไม่ใช่แนวคิดเพียงอย่างเดียว มุมมองจากธรรมชาติ จากการดำรงชีวิตในอดีตถึงปัจจุบัน เจฟ ประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ปฏิบัติจริง แฟชั่นปกในหน้านิตยสาร Hair Today 6 ภายใต้คอนเซ็ปต์  “The Shadow of The Evening Sun” by Lerlon  Product ที่นำเฉดสีให้ความเป็นธรรมชาติ สดใส และปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อแปลงโฉมให้นางแบบปกของเรา Jenny ของเราออกมาสดใสตรงใจ ภายใต้ภาพคอนเซ็ปท์แสงแห่งดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นโลกยามเย็น ภาพสะท้อนทั้งจาก Hair Colorlist มือโปร ที่เริ่มสร้างสรรค์งานกันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อให้งานแฟชั่นเซตนี้ออกมาสวยงาม และสมบูรณ์แบบ

” The Shadow of The Evening Sun” ซึ่งแนวคิดนี้เป็นของ ช่างผมรุ่นใหม่อนาคตไกล
ศักดิ์ชาย แซ่อึ้ง  หรือ น้อง เจฟ โดยมี trainers อ.ปฎิวัติ บารมีอนันต์ อ.มนัส ด้วงพรม คอยให้คำแนะนำเรียกว่าทำงานเป็นทีมเลยก็ว่าได้

     เมื่อได้เวลา การทำงานก็เริ่มต้นขึ้น และเมื่องานจบลง ภาพเซตปกก็ออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น ส่วนเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไรกันบ้าง ทีมงาน Hair Today ก็พร้อมนำแฟชั่นภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Shadow of The Evening Sun” มาให้สัมผัสไปพร้อมๆ กันเลยนะ !

The Shadow of The Evening Sun
Model : Jenny
Hair Colorist : Sakchai Saeung (Jeff)
Hair Stylist : Manus Duangprom
Make up : Phon Paramart
Photo : LemZtu
Assistant : Hairtoday team
Spascial thaks : Patiwat barameanun
ผลิตภัณฑ์ : Lerlon lumiere



จากปก

ภายใต้คอนเซ็ปท์ The Shadow of The Evening Sun
ของหนุ่มช่างผมอนาคตไกล เจฟ ศักดิ์ชาย แซ่อึ้ง

My Profle

วันเกิด :             2 พ.ย. 2527                             พี่น้อง :          มีพี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน

ชื่อจริง   :   ศักดิ์ชาย แซ่อึ้ง     ชื่อเล่น :         เจฟ

การศึกษา :        ปริญญาตรี สื่อสารมวลชน ม.รามคำแหง  

คติการดำเนินชีวิต :         คิดดี ทำดี ย่อมได้ดี

เจฟเป็นหนึ่งในผู้ชื่นชอบการทำสีผม ชอบสีสัน ที่นำมาปรับประยุกต์เข้ากับการใช้ชีวิตแต่ละเฉดสีได้อย่างไม่จำเจ และจากปกเล่มนี้ เราได้นางแบบสาว Jenny มาเป็นผู้ร่วมแรงบันดาลใจตามเฉดสีภายใต้คอนเซ็ปท์  The Shadow of The Evening Sunที่อาร์ตติสของเราอย่างเจฟ เล่าให้ฟังว่า….

“ครับ สำหรับคอนเซ็ปท์นี้ มีแรงบันดาลใจจากการที่ เจฟ ได้เห็นแสงของพระอาทิตย์ เวลาที่ตกกระทบกับสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้แต่ละช่วงเวลา ทำให้เกิดไอเดียในการสร้างสีสัน แต่ละเฉดสี อย่างตามคอนเซ็ปท์ของแฟชั่นปกเซตนี้ก็คือเป็นแสงของพระอาทิตย์ยามเย็น ใกล้พลบค่ำครับ ช่วงโคนผมก็คือจะเป็นลักษณะเหมือนแสงที่กำลังจะหมดแล้ว ริบหรี่แล้ว แต่ก็ยังมีแสงสาดส่องมาบ้าง มันก็จะออกมาเป็นสีส้มๆ แดงๆ ดำๆ ประมาณนี้นะ

ในส่วนของความยากง่าย อันนี้เจฟว่าอยู่ที่เราวาง ครับ ว่าเราอยากให้มันเป็นแบบไหน ความยากน่าจะอยู่ที่การเบลอสีนะครับ ทำอย่างไรให้ออกมาสมูทแบบนี้ครับ สำหรับนางแบบ Jenny ก็เป็นฝรั่งด้วย เลยอาจจะดูเป็นโจทย์ที่ยากหน่อย ตรงที่นางแบบฝรั่งผมบลอนด์ และค่อนข้างจะออกเขียวนิดหนึ่ง แล้วเขาอยากได้คอปเปอร์แนวทองแดงอมชมพู มันก็จะยากตรงนี้ แต่ก็ทำออกมาตามจินตนาการของเรา ใช้เวลาค่อนข้างนานด้วย เพราะผมเขาเป็นผมบลอนด์ที่แบบเสมอกันหมดเลย ต้องมาใช้เทคนิคให้เกิดมิติ หวานขึ้น สมูทขึ้นในการวางเฉดสี ก็ใช้เวลาพอสมควร ช่วงต่อสีก็ต้องมีวิธีทำ แต่ออกมาก็ตรงใจ ได้ตามที่เราต้องการ นางแบบเองเขาก็ชอบ เจฟถามก่อนว่าอยากได้อะไร เขาบอกอยากได้แบบคอปเปอร์ ก็พยายามทำออกมาให้โดดเด่น เป็นเหมือนแสงพระอาทิตย์ที่ตกยามเย็นครับ”

นับเป็นไอเดียของสุดยอดฝีมือ และเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดจากมุมมองการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเจฟ ที่พร้อมจะสร้างสีสันออกมาให้สดใสเสมอ และหากมองย้อนกลับไปในการเริ่มงานด้านสีผม ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ ในการก้าวเดินบนเส้นทางนี้ของเจฟ

“ครับ เริ่มต้นเลยก็คือผมชอบการทำสีผมมาตั้งแต่ 15-16 ชอบตั้งแต่วัยรุ่นเลย แล้วเจฟก็ไปเรียนทำผมก่อน เขาก็ไม่ได้สอนอะไรเยอะ ว่าจะต้องทำยังไง เราก็เรียนตามหลักสูตรเสริมสวยผมทั่วไป ก็ลองผิดลองถูกตามเด็กๆ ชอบไป แต่ความน่าจะเป็น สีอันนี้ รวมกับอันนี้น่าจะเป็นแบบนี้ มากกว่า ก็ทำไปเรื่อยๆ จนเรียนจบ เจฟก็ได้ทำร้านอยู่ร้านหนึ่ง ยังไม่ได้เป็นช่างโดยตรง เป็นช่างเล็กๆ ศึกษาจากช่างใหญ่เจ้าของร้าน แต่เขาก็ไม่ได้หมด ไม่ได้สอนอะไร สมัยก่อนยังไม่มีโซเชียลก็จะหาข้อมูลแบบนี้ยาก แต่เจฟสนิทกับช่างด้วยกันหลายคน ก็จะมาแชร์กันว่าวิธีแบบนี้ ต้องทำยังไ ง จนเริ่มมีโซเชียล เวปไซต์ต่างๆ เข้ามา การวางสี ใช้ไฮโดรเยนยังไง เราก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ จนน่าจะประมาณสองสามปีก่อน เจฟก็ได้มาเรียนทฤษฎีสีจริงจังเลย เป็นเบสิค เอ็นแอดวานซ์ ก็ปลดล็อกทั้งหมด ทำให้เราทำงานได้หมดเลย เหมือนถูกไข ปลดล็อกกุญแจให้เรารู้หมดเลย มันเหมือนแตกฉานไปเลย ว่าอันนี้เป็นแบบนี้  ส่วนผลงานที่โดดเด่น ก็ต้องออกตัวก่อนว่า เจฟจะไม่ใช่สายประกวดเลยนะ แต่เจฟชอบทำเบื้องหลัง ทำเงียบๆ ไม่หวือหวา ขอเรียบๆ แต่ดูหรู ดูแพง ดูฮายแบบนี้เลย จะใส่ใจรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ตอนนี้เรื่องร้านที่มีอยู่แล้วก็หยุดไปก่อนเพราะเราไม่มีเวลา มาทำบริษัทสีโดยตรงของ Lerlon มาเป็นเหมือนหนึ่งในหุ้นส่วน

งานตรงนี้สำหรับเจฟก็ยากนะครับ แต่ก็ท้าทายดี เราก็ใช้ประสบการณ์ทั้งหมด จากทุกยี่ห้อที่ใช้มา รู้จักหมด นอกจากแบรนด์ใหม่ๆ บางแบรนด์เราก็ไม่ค่อยรู้จัก แต่เราก็ใช้แบรนด์นอกมาเรื่อยๆ ตอนรู้จักร้านแถวสุขุมวิท ก็เป็นกลุ่มที่แบบไฮโซทำเลย วัตถุดิบในการผลิตอาจแตกต่างกันเรื่องความปลอดภัยแค่นั้นเอง แต่ที่หยุดที่เลอลอนคือเอาปัญหาต่างๆ มาแก้ไข เช่น มีกลิ่น กลิ่นเหม็น เฉดผมคนไทยเป็นแบบนี้ ต้องใช้แบบนี้ดีกว่า ศึกษาหลายๆ อย่างเรื่องของเคมีด้วย เจฟไม่ได้ทำร้านผมมาตลอดชีวิต อาจทำระยะสั้น แต่เราชอบ รับเป็นจ็อบๆ ไป ทำงานออฟฟิศตลอด แต่ฝันว่าวันหนึ่งจะมีร้านของตัวเอง ร้านเล็กๆ ไม่ต้องหวังว่าจะดัง ขอแค่ลูกค้าจับต้องได้ ใครก็อยากทำสีกับเราแบบนี้ ครับ”

กับความฝันในอนาคต และสิ่งที่เจฟอยากฝากไว้

“ครับ…เจฟก็อยากทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาจเล่าเรื่องของสี สีสามารถเล่าเหตุการณ์ของคนๆ นั้นได้ สีสามารถเปลี่ยนคนๆ หนึ่งไปเป็นอีกคนหนึ่งได้ ไปแบบนะครับ ส่วนสิ่งที่ฝาก ก็คงมีแต่ว่า ถ้าเราชอบในการใช้สี ก็อยากให้ใช้สีอย่างระมัดระวัง  ในเรื่องของความปลอดภัย เรื่องของมะเร็ง สีสันไม่ว่าคุณจะทำสีอะไร ไม่รู้หลักของสีมากมาย เพราะสีคือจินตนาการ มันไม่มีคำว่าถูก ผิด มีแค่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ มันบอกตัวตนของเราออกมาได้ขนาดไหนเท่านั้นครับ ขอบคุณครับ”มองทุกอย่างบนโลกใบนี้อย่างมีสีสัน และใช้ชีวิตอย่างสดใสเสมอ ภายใต้คอนเซ็ปท์การใช้ชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบสิ่งต่างๆ บนโลก ดังที่เจฟได้กล่าวเอาไว้ !